20 คำศัพท์ใช้บ่อยในตลาดหุ้นที่นักลงทุนมือใหม่ควรรู้
5739 views | 23/03/2022
Copy link to clipboard
Koii Nopnok
Content Creator

สำหรับนักเล่นหุ้นมือใหม่ นอกจากความรู้พื้นฐานในเรื่องของการลงทุนแล้ว ในวงการตลาดหุ้นก็มักจะมีคำศัพท์ที่ควรรู้ไว้ เพราะเป็นศัพท์ที่มักจะใช้กันบ่อย ๆ ตั้งแต่การซื้อ-ขายหุ้นไปจนถึงการติดตามข้อมูลข่าวสาร อัปเดตตลาดหุ้น หรือพูดคุยกับนักลงทุนคนอื่น ๆ บทความนี้จึงได้คัด 20 คำศัพท์ที่ใช้บ่อยในตลาดหุ้นที่นักลงทุนมือใหม่ควรรู้ 



SET Index = ดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย


SET50 Index = ดัชนีราคาหุ้นของหุ้นสามัญ 50 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูง และการซื้อขายมีสภาพคล่องอย่างสม่ำเสมอ โดยจะปรับเปลี่ยนใหม่ในทุก ๆ 6 เดือน


ATO : At the Open = คำส่งซื้อขายหลักทรัพย์ที่ราคาเปิดตลาด


ATC : At the Close = คำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ที่ราคาปิดตลาด


Bid = ราคาเสนอซื้อ


Offer = ราคาเสนอขาย


Ceiling & Floor ราคาเสนอซื้อ/เสนอขายสูงสุดและต่ำสุดของหลักทรัพย์ในวันนั้น


Uptrend Downtrend = หุ้นในช่วงขาขึ้นและหุ้นในช่วงขาลง


Big Lot = การซื้อขายของรายใหญ่


Broker = บริษัทหลักทรัพย์ ทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการซื้อ-ขายหลักทรัพย์ให้แก่นักลงทุน 




Circuit Breaker = คำสั่งให้หยุดการซื้อ-ขายชั่วคราว จะเกิดขึ้นเมื่อตลาดหุ้นมีการปรับตัวลงมากผิดปกติ เพื่อให้นักลงทุนได้ตรวจสอบข้อมูลข่าวสารและวางแผนการลงทุนได้ทัน โดยมักจะหยุดการซื้อ-ขายเป็นเวลา 30 นาที และ 1 ชั่วโมง


Bull Market = ตลาดกระทิง เป็นตัวแทนของตลาดขาขึ้น คือมีปริมาณการซื้อขายที่มาก มีสภาพคล่องสูง โดยมีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 2 - 3 เดือน


Bear Market = ตลาดหมี เป็นตัวแทนของตลาดขาลง คือดัชนีหลักทรัพย์และราคาหุ้นลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน และปริมาณการซื้อขายก็มีน้อย 


Stock Split = การแตกหุ้น คือบริษัทจะทำการแตกหุ้นพื่อให้มีการซื้อ-ขายหุ้นในจำนวนมากขึ้น โดยมูลค่าของทุนที่จดทะเบียนนั้นเท่าเดิม 


Capital Gain = กำไรส่วนต่างของราคาในการซื้อขายหลักทรัพย์ 


Dividend = เงินปันผล เป็นผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารทุนและหน่วยลงทุน โดยจะได้รับจากบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ด้วยการนำส่วนของกำไรมาแบ่งจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญ ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ หรือผู้ถือหน่วยลงทุน 


Dividend Yield = อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล เป็นตัวชี้วัดเพื่อให้นักลงทุนทราบว่า หากลงทุนซื้อหุ้นในราคาตลาด ณ ปัจจุบัน จะมีโอกาสได้รับเงินปันผลตอบแทนจากการลงทุนเท่าไหร่ 


EPS (Earning per Share) = กำไรสุทธิต่อหุ้น ซึ่งมาจากผลกำไรของบริษัทหารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดที่เรียกชำระแล้ว


Growth Stock = หุ้นเติบโต คือหุ้นของบริษัทที่มีความสามารถในการทำกำไรสูงในปัจจุบันและคาดว่าจะทำกำไรได้สูงต่อไปในอนาคต ซึ่งมีผลทำให้มูลค่าหุ้นเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ


Value Stock = หุ้นคุณค่า คือหุ้นที่มีราคาหรือมูลค่าต่ำกว่าราคาที่เหมาะสม หรือเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี เหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาว




ที่มาข้อมูล

  • https://www.setinvestnow.com/th/glossary